Key Takeaway
- ไฟเกษตร คือระบบไฟฟ้าที่จัดไว้เฉพาะสำหรับการใช้ในงานเกษตรกรรม เช่น การเดินเครื่องสูบน้ำ การจ่ายน้ำ หรือการใช้ไฟฟ้าในสวน ไร่ และนา ซึ่งการขอไฟฟ้าเพื่อการเกษตรไม่สามารถทำได้โดยทุกคน ต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่โครงการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้เท่านั้น
- ข้อควรรู้ก่อนยื่นขอไฟฟ้าเพื่อการเกษตร มีดังนี้ เอกสารในการยื่น หลักเกณฑ์ที่ต้องผ่านในการขอไฟฟ้าเพื่อการเกษตร และค่าธรรมเนียมติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อการเกษตร
- ขั้นตอนการขอไฟฟ้าเพื่อการเกษตร เริ่มจากสำรวจพื้นที่และความต้องการใช้ไฟ ติดต่อการไฟฟ้าในพื้นที่ (กฟภ. หรือ กฟน.) ยื่นคำร้องและเอกสาร ตรวจสอบพื้นที่โดยเจ้าหน้าที่ เสนอราคาติดตั้งและดำเนินการติดตั้ง ติดตั้งมิเตอร์และจ่ายไฟ
- หากสนใจการติดตั้ง วางระบบไฟฟ้าพลังงานสะอาด แนะนำ EWAVE พร้อมด้วยบริการตั้งแต่ให้คำปรึกษา ออกแบบและวางระบบไฟฟ้า รวมถึงการดูแลและติดตั้ง ประสานงานกับการไฟฟ้า เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าทั้งระบบ
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในภาคการเกษตรมากขึ้น ไฟฟ้ากลายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรทำงานได้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสูบน้ำ เปิดระบบรดน้ำอัตโนมัติ หรือใช้เครื่องจักรต่างๆ แต่หลายคนยังไม่แน่ใจว่าจะขอใช้ไฟฟ้าเพื่อการเกษตรได้อย่างไร ต้องเตรียมเอกสารหรือผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบครบถ้วนให้คุณเข้าใจง่ายและทำตามได้จริง!

ไฟเกษตรคืออะไร จำเป็นอย่างไรกับเกษตรกร
ไฟเกษตรคือระบบไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในภาคเกษตรกรรม เช่น การสูบน้ำ การเพาะปลูกในโรงเรือน หรือการใช้งานเครื่องมือไฟฟ้าต่างๆ รวมถึงการยื่นขอไฟเกษตรเพื่อติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร ซึ่งเหมาะกับเกษตรกรทุกขนาดที่ต้องการลดต้นทุนค่าไฟฟ้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วยอัตราค่าไฟฟ้าที่ถูกกว่าปกติ ช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น
โดยระยะเวลาการดำเนินการขอไฟฟ้าเพื่อการเกษตรทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 7–15 วันทำการ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของระบบและเอกสารที่ครบถ้วน

ความแตกต่างระหว่างไฟเกษตรกับไฟบ้าน
ความแตกต่างระหว่างไฟเกษตรกับไฟบ้านเริ่มตั้งแต่วัตถุประสงค์การใช้งาน ไฟเกษตรจะใช้สำหรับกิจกรรมทางการเกษตร อัตราค่าไฟอยู่ในประเภทที่ 7 และมีค่าบริการสูง เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายระบบเกษตร และต้องยื่นขอใช้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการตรวจสอบตามเงื่อนไขและเอกสารที่กำหนด ส่วนไฟบ้านใช้สำหรับที่อยู่อาศัย อาคาร สถานที่ราชการ ร้านค้า มีอัตราค่าไฟอยู่ในประเภทที่ 1 และมีค่าบริการที่ต่ำกว่าไฟเกษตร เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ ระบบไฟฟ้าพลังงานสะอาดอย่าง Solar cell กำลังได้รับความนิยมในการนำมาใช้ทั้งการเกษตรและที่อยู่อาศัย สามารถช่วยลดค่าไฟและใช้พลังงานหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการใช้งานได้หลากหลายพื้นที่

ข้อควรรู้! ก่อนยื่นขอไฟฟ้าเพื่อการเกษตร
ก่อนยื่นขอไฟฟ้าเพื่อการเกษตร ควรเตรียมความพร้อมและเข้าใจข้อมูลสำคัญต่างๆ เพื่อให้การขอใช้ไฟฟ้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น รวมถึงการเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมอย่างโซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตรที่จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น
เอกสารที่ต้องเตรียมในการขอไฟฟ้าเพื่อการเกษตร
หลายคนอาจสงสัยว่าการขอไฟฟ้าเพื่อการเกษตรต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง? โดยเอกสารที่ต้องเตรียม มีดังนี้
- บัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน ใช้สำหรับยืนยันตัวตนของผู้ขอใช้ไฟฟ้า
- โฉนดที่ดิน หรือสัญญาเช่าที่ดิน เพื่อแสดงสิทธิ์ในการใช้พื้นที่สำหรับติดตั้งระบบไฟฟ้า
- สำเนาโฉนดที่ดิน หรือเอกสารสิทธิ์ที่ดิน เช่น น.ส.3 หรือ สปก. ใช้ประกอบการพิจารณาโดยการไฟฟ้า
- แบบฟอร์มขอใช้ไฟฟ้าเพื่อการเกษตร กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนตามที่การไฟฟ้ากำหนด
- เอกสารรับรองจาก อบต. หรือหน่วยงานราชการประจำท้องที่ เพื่อยืนยันการทำเกษตรในพื้นที่ดังกล่าว และสนับสนุนการขอใช้ไฟฟ้าในอัตราเกษตรกรรม
หากเอกสารครบถ้วน จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการได้รวดเร็วและไม่ต้องกลับมาแก้ไขในภายหลัง
เกณฑ์ที่ต้องผ่านในการขอไฟฟ้าเพื่อการเกษตร
นอกจากเอกสารที่ต้องเตรียมแล้ว มาเช็กก่อนว่าเกณฑ์ที่ต้องผ่านในการขอใช้ไฟฟ้าเพื่อการเกษตร และขั้นตอนการขอมิเตอร์ไฟเกษตรควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
- ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าพื้นที่ยังไม่มีไฟฟ้าไม่เป็นพื้นที่หวงห้ามราชการ ยกเว้นหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ที่ได้ทำข้ออนุญาตให้ดำเนินการขยายเขตไฟฟ้าได้
- เส้นทางต้องเป็นสาธารณะ และสามารถสัญจรได้อย่างสะดวก
- จุดที่ขอใช้ไฟฟ้าต้องสามารถเข้าถึงได้จากระบบจำหน่าย โดยไม่ขัดสายทางสาย
- เกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกร (ทะเบียนเกษตรกร ทะเบียนเกษตรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เลี้ยงสัตว์)
- ที่ดินต้องไม่ถูกถือครองโดยเอกชนรายใหญ่ และต้องมีเอกสารหลักฐานสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดินหรือหนังสือสัญญาเช่าที่ดินทำกินที่ถูกต้องตามกฎหมายของพื้นที่ทำการเกษตร
- เป็นเกษตรกรรายย่อยที่มีมิเตอร์ขนาดไม่เกิน 15(45) แอมป์ ต่อ 1 ราย หรือขอติดตั้งมิเตอร์ขนาด 5(100) แอมป์ มีที่เก็บของมีดเกษตรกรที่ผลิตปั่นตั้งสูงสุดไม่เกิน 50 แอมป์ต่อราย
- ทั้งมิเตอร์เก่าและใหม่ต้องอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของการไฟฟ้าเดียวกัน และต้องสามารถออกใบแจ้งหนี้ค่ากระแสไฟฟ้าของมิเตอร์ใหม่ โดยแจ้งเก็บเงินที่มิเตอร์เก่าได้
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขยายเขตต่อราย เฉลี่ยไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย (แปลงที่ดิน)
ค่าธรรมเนียมติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อการเกษตร
ในการขอไฟเกษตรมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อการเกษตร ดังนี้
- ติดตั้งขนาด 5(15) แอมป์ ค่าบริการ 1,000 บาท
- ติดตั้งขนาด 15(45) แอมป์ ระบบ 1 เฟส ค่าบริการ 6,450 บาท
- ติดตั้งขนาด 15(45) แอมป์ ระบบ 3 เฟส ค่าบริการ 21,350 บาท

ขั้นตอนดำเนินการขอไฟฟ้าเพื่อการเกษตร
ก่อนดำเนินการขอไฟฟ้าเพื่อการเกษตร ควรรู้ขั้นตอนไว้ เพื่อความเข้าใจในกระบวนการทำงาน โดยมีขั้นตอนดังนี้
- สำรวจพื้นที่และความต้องการใช้ไฟ ประเมินพื้นที่ที่จะใช้ไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้าที่ต้องการ เช่น สำหรับสูบน้ำ หรือใช้ในโรงเรือน
- ติดต่อการไฟฟ้าในพื้นที่ (กฟภ. หรือ กฟน.) สอบถามข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเงื่อนไขการขอใช้ไฟฟ้าและแบบฟอร์มที่ต้องใช้
- ยื่นคำร้องและเอกสาร นำเอกสารที่เกี่ยวข้องมายื่นพร้อมกรอกแบบฟอร์มคำขอใช้ไฟฟ้าเพื่อการเกษตร
- ตรวจสอบพื้นที่โดยเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมและวางแผนการติดตั้ง
- เสนอราคาติดตั้งและดำเนินการติดตั้ง การไฟฟ้าจะเสนอค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง หากผู้ขอใช้ไฟยินยอม จะเริ่มดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้า
- ติดตั้งมิเตอร์และจ่ายไฟ หลังจากติดตั้งระบบเรียบร้อย การไฟฟ้าจะติดตั้งมิเตอร์ และเริ่มจ่ายไฟให้สามารถใช้งานได้ทันที
สรุป
ไฟเกษตร คือระบบไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในภาคเกษตร เช่น เดินเครื่องสูบน้ำ หรือใช้ในสวน ไร่ และนา โดยมีอัตราค่าไฟและขั้นตอนการขอใช้แตกต่างจากไฟบ้านทั่วไป โดยการขอใช้ไฟฟ้าเพื่อการเกษตรไม่ซับซ้อนอย่างที่หลายคนคิด เพียงเตรียมเอกสารให้ครบ ศึกษาขั้นตอนให้เข้าใจ และเลือกติดตั้งมิเตอร์ให้เหมาะกับการใช้งาน ก็ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำเกษตรได้ในระยะยาว หากยังไม่แน่ใจ สามารถขอคำแนะนำจากการไฟฟ้าในพื้นที่ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนได้
หากคุณกำลังวางแผนขอไฟฟ้าเพื่อการเกษตรแต่ไม่มั่นใจเรื่องขั้นตอน เอกสาร หรือระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมกับฟาร์มของคุณ ให้ EWAVE บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ออกแบบระบบไฟฟ้าเกษตรที่ได้มาตรฐาน จนถึงดูแลการติดตั้งและประสานงานกับการไฟฟ้า ช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า ประหยัดเวลาได้
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
ไฟฟ้าเพื่อการเกษตรใช้กับบ้านได้ไหม?
ไฟฟ้าเพื่อการเกษตรไม่สามารถใช้แทนไฟบ้านได้โดยตรง เนื่องจากไฟเกษตรมีเงื่อนไขและคุณสมบัติสำหรับเกษตรกรที่จดทะเบียนใช้ในกิจกรรมเกษตรเท่านั้น หากนำมาใช้ในบ้านอยู่อาศัย อาจผิดกฎและไม่ได้รับสิทธิ์ในอัตราค่าไฟที่เหมาะสมหรือประหยัด
การยื่นขอไฟฟ้าเกษตรออนไลน์ ทำได้หรือไม่?
การยื่นขอไฟฟ้าเกษตร ยังไม่เปิดให้ทำออนไลน์เต็มรูปแบบโดยตรง ต้องเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน ใบรับรองจากหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น และนำเรื่องไปยื่นด้วยตัวเองที่การไฟฟ้าในพื้นที่ โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีบริการออนไลน์สำหรับการขอใช้ไฟฟ้าโดยทั่วไป แต่ไฟเกษตรมีขั้นตอนพิเศษที่ต้องมีเอกสารรับรองจากท้องถิ่น
การต่อสายไฟเกษตรต้องขออนุญาตหรือไม่?
การต่อสายไฟเกษตรต้องขออนุญาตกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบก่อน เนื่องจากมีข้อกำหนดและมาตรฐานเกี่ยวกับการติดตั้งสายไฟ เช่น การใช้วัสดุที่เหมาะสม การเดินท่อร้อยสาย และความลึกในการฝังสายไฟ เพื่อความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎหมาย
สามารถขอใช้โซลาร์เซลล์ร่วมกับไฟเกษตรได้หรือไม่?
ได้ โดยควรแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ต้นเพื่อให้คำแนะนำและวางระบบที่เหมาะสม