Key Takeaway
- Net zero คือภาวะที่ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาเท่ากับปริมาณที่ถูกดูดซับหรือชดเชยจนเหลือเป็นศูนย์สุทธิ เพื่อจำกัดอุณหภูมิของโลกไม่ให้สูงเกินไปและลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
- เป้าหมายของ Net Zero คือการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกให้เหลือสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่เกิน 1.5-2 องศาเซลเซียส และส่งเสริมความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
- แนวทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เช่น โซลาร์เซลล์ และการชดเชยคาร์บอนด้วยการปลูกป่า หรือโครงการดูดซับคาร์บอนอื่นๆ
ปัจจุบัน คำว่า “Net Zero” หรือ “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วโลก แต่หลายคนอาจยังรู้สึกว่าแนวคิดนี้เป็นเรื่องไกลตัว เข้าใจยาก หรือทำได้ยากเกินไป บทความนี้จึงจะพาไปทำความเข้าใจแนวคิด Net Zero คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และที่สำคัญคือมีแนวทางใดบ้างที่เราทุกคนสามารถเริ่มต้นลงมือทำได้จริง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมสู่เป้าหมาย Net Zero ในอนาคตอย่างยั่งยืน

Net Zero คืออะไร
Net Zero คือภาวะที่ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิของมนุษย์เป็นศูนย์ กล่าวคือปริมาณก๊าซที่ถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศจากกิจกรรมต่างๆ เช่น การผลิตไฟฟ้า การเดินทาง หรือภาคอุตสาหกรรม จะต้องถูกชดเชยด้วยการลดหรือการดูดกลับก๊าซในปริมาณที่เท่ากัน เช่น การปลูกต้นไม้ การใช้พลังงานสะอาด หรือการใช้เทคโนโลยีดักจับคาร์บอน การบรรลุ Net Zero ไม่ได้หมายถึงการหยุดปล่อยคาร์บอนทั้งหมด แต่คือการจัดการสมดุลระหว่างสิ่งที่ปล่อยออกมากับสิ่งที่ดูดกลับคืนได้
แนวคิด Net Zero คือกลยุทธ์สำคัญในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ เพราะก๊าซเรือนกระจกเป็นต้นเหตุหลักของภาวะโลกร้อน หลายประเทศ องค์กร และธุรกิจขนาดใหญ่ต่างตั้งเป้าหมายมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2050 เพื่อร่วมกันลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป โดยไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงวิธีผลิตหรือใช้พลังงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและแนวคิดของผู้คนทั่วโลกอีกด้วย

เป้าหมายของ Net Zero
เป้าหมายของ Net Zero คือการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เหลือศูนย์ เพื่อชะลอภาวะโลกร้อนและจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม ตามที่ระบุไว้ในความตกลงปารีส (Paris Agreement)
การบรรลุเป้าหมายนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงผลกระทบรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง หรือคลื่นความร้อน และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเป็นแนวทางที่เชื่อมโยงการเติบโตทางเศรษฐกิจเข้ากับการดูแลโลกไปพร้อมกัน

แนวทางเพื่อการบรรลุเป้าหมาย Net Zero
เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้สำเร็จ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งในระดับบุคคล องค์กร และสังคม โดยมีแนวทางที่สามารถลงมือทำได้จริง ไปดูกันว่าแนวทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero มีอะไรบ้าง
ผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาด
การผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาดคือการหันมาใช้แหล่งพลังงานที่ไม่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ หรือพลังงานชีวมวล ซึ่งเป็นทรัพยากรที่หมุนเวียนได้และไม่หมดไป
วิธีการทำได้ทั้งในระดับครัวเรือน เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน ไปจนถึงในระดับอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดขนาดใหญ่ การเปลี่ยนมาใช้พลังงานประเภทนี้จะช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และเป็นก้าวสำคัญในการลดการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศอย่างยั่งยืน

ลดการปล่อยก๊าซมีเทน
การลดการปล่อยก๊าซมีเทนสามารถทำได้หลายวิธี โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม เช่น การปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการมูลสัตว์ การใช้เทคโนโลยีในการบำบัดน้ำเสีย และการลดการรั่วไหลของก๊าซจากระบบขนส่งพลังงานฟอสซิล
สำหรับภาคอุตสาหกรรมการอนุรักษ์พลังงานในโรงงานก็มีบทบาทสำคัญ เพราะช่วยลดการใช้ทรัพยากรที่ปล่อยก๊าซมีเทนหรือก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ โดยตรง ซึ่งนอกจากจะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในระยะยาวอีกด้วย
หยุดใช้ถ่านหิน
การหยุดใช้ถ่านหินในการผลิตพลังงานเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เนื่องจากถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานที่ก่อให้เกิดคาร์บอนสูงที่สุด การเปลี่ยนผ่านจากถ่านหินไปสู่แหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม หรือพลังงานน้ำ จึงเป็นทางเลือกที่จำเป็น
โดยต้องอาศัยการสนับสนุนด้านนโยบายควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานที่ทันสมัย เพื่อให้ระบบผลิตไฟฟ้ามีความเสถียรและเพียงพอต่อความต้องการ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่และการยุติการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยผลักดันสังคมไปสู่ Net Zero ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ฟื้นฟูป่าไม้
หนึ่งวิธีสำคัญที่ยั่งยืนเพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero คือการฟื้นฟูป่าไม้ เพราะต้นไม้สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศและกักเก็บไว้ในรูปของชีวมวล การปลูกป่าใหม่ การฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่เสื่อมโทรม และการอนุรักษ์ป่าธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์จึงเป็นแนวทางที่ได้ผลทั้งในแง่ของการลดคาร์บอนและการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ

เน้นเดินทางโดยใช้รถสาธารณะ
การเน้นเดินทางโดยใช้รถสาธารณะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะรถสาธารณะสามารถรองรับผู้โดยสารจำนวนมาก ทำให้ลดจำนวนรถยนต์ส่วนบุคคลบนท้องถนน ซึ่งช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและลดมลพิษทางอากาศได้อย่างชัดเจน การส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวก ปลอดภัย และเข้าถึงง่าย จึงเป็นกุญแจสำคัญในการสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ของสังคมโดยรวม
ใช้กระดาษและพลาสติกให้น้อยลง
อีกหนึ่งวิธีที่ทุกคนช่วยกันทำได้ง่ายๆ เพื่อช่วยบรรลุเป้าหมาย Net Zero คือการลดการใช้กระดาษและพลาสติก เพราะกระบวนการผลิตวัสดุเหล่านี้มักปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมาก
การเลือกใช้กระดาษรีไซเคิล ใช้วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง รวมถึงการเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะช่วยลดปริมาณขยะและลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต

ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า
การลดการใช้พลังงานไฟฟ้าสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การปิดอุปกรณ์ที่ไม่ใช้งาน ใช้หลอดไฟ LED ที่ประหยัดพลังงาน รวมถึงการติดตั้งระบบ Solar Rooftop บนหลังคาบ้านหรืออาคารซึ่งช่วยผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์มาใช้เอง ลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากระบบหลักและช่วยลดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมาตรฐานประหยัดพลังงานยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าและสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ได้อย่างยั่งยืน
ช่วยกันลดขยะ
หนึ่งในวิธีที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero คือการช่วยกันลดขยะ เพราะขยะที่ถูกทิ้งลงหลุมฝังกลบหรือเผาไหม้จะปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น มีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์ การลดขยะสามารถทำได้โดยการลดการใช้สิ่งของที่ไม่จำเป็น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้
รวมถึงการแยกขยะอย่างถูกต้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขยะและลดปริมาณขยะตกค้างในสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมวัฒนธรรม “ลด-ใช้-รีไซเคิล” ภายในชุมชนและองค์กร ถือเป็นกุญแจสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และช่วยขับเคลื่อนสังคมสู่เป้าหมาย Net Zero ได้อย่างยั่งยืนเช่นเดียวกัน
สรุป
Net Zero คือสภาวะที่ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาและถูกดูดซับหรือชดเชยมีค่าเท่ากับศูนย์ มีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส โดยแนวทางสู่เป้าหมายนี้ครอบคลุมตั้งแต่การใช้พลังงานสะอาด การลดปล่อยก๊าซมีเทนและเลิกใช้ถ่านหินด้วยเทคโนโลยีด้านพลังงาน ไปจนถึงการฟื้นฟูป่าไม้ ส่งเสริมการใช้รถสาธารณะ ลดการใช้กระดาษและพลาสติก รวมถึงการประหยัดพลังงานไฟฟ้าด้วย Solar Rooftop ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยขับเคลื่อนสังคมสู่เป้าหมาย Net Zero ได้อย่างแน่นอน
เริ่มต้นลดก๊าซเรือนกระจกง่ายๆ ด้วยการติดตั้งโซลาร์เซลล์กับ EWAVE เพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้า พร้อมแนวทางสำคัญอื่นๆ เช่น ผลิตพลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซมีเทน หยุดใช้ถ่านหินด้วยเทคโนโลยีด้านพลังงาน ฟื้นฟูป่าไม้ ส่งเสริมการใช้รถสาธารณะ และลดใช้กระดาษ พลาสติก รวมถึงขยะและพลังงานไฟฟ้า เพื่อร่วมขับเคลื่อนสังคมสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างยั่งยืน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Net Zero Emission คืออะไร?
Net Zero Emission คือภาวะที่ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศเท่ากับปริมาณก๊าซที่ถูกดูดซับหรือลดลง โดยรวมแล้วทำให้ปริมาณก๊าซเรือนกระจกสุทธิในบรรยากาศเป็นศูนย์ ซึ่งช่วยชะลอภาวะโลกร้อนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
Zero Carbon กับ Net Zero ต่างกันอย่างไร?
Zero Carbon คือการไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เลยตั้งแต่ต้นทาง เช่น ใช้พลังงานสะอาด 100% ขณะที่ Net Zero คือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาแต่มีการชดเชยหรือดูดซับกลับคืนมาให้เท่ากับปริมาณที่ปล่อย ทำให้ปริมาณสุทธิเป็นศูนย์ โดย Net Zero อาจยังมีการปล่อยจริงแต่จะต้องชดเชยให้ครบถ้วน
องค์กรและธุรกิจจะทำ Net Zero อย่างไร?
องค์กรและธุรกิจสามารถทำ Net Zero ได้โดยการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล และลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตไฟฟ้าสะอาดใช้เอง รวมถึงการชดเชยคาร์บอนผ่านโครงการปลูกป่า หรือโครงการลดก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน