ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการใช้พลังงานที่ไม่ยั่งยืน ทำให้ผู้คนตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น หนึ่งในเทรนด์ที่ได้รับความนิยม และกำลังเติบโตคือการติดตั้ง Solar Rooftop หรือระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา ซึ่งไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการใช้ชีวิตที่รักษ์โลกเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าไฟฟ้าได้อีกด้วย แต่ Solar Rooftop คืออะไรกันแน่? และมันช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้จริงหรือไม่? บทความนี้จะพาคุณไปค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านี้กัน!
ทำความรู้จัก Solar Rooftop คืออะไร
Solar Rooftop หรือระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา เป็นระบบที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งการทำงานของมันเริ่มจากการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panels) บนหลังคาของบ้าน อาคาร หรือโรงงานอุตสาหกรรม เมื่อแผงโซลาร์เซลล์ได้รับแสงอาทิตย์ มันจะเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (Direct Current – DC) ด้วยปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Photovoltaics Effect
หลังจากนั้น ไฟฟ้ากระแสตรงที่ผลิตได้จะถูกเปลี่ยนเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating Current – AC) ด้วยเครื่องแปลงไฟฟ้าหรือ Inverter จากนั้นไฟฟ้ากระแสสลับนี้ก็จะสามารถนำไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน หรืออาคารได้ทันที นอกจากนี้ หากมีการผลิตไฟฟ้าเกินกว่าที่ใช้งานจริง ก็สามารถขายคืนให้กับการไฟฟ้า หรือเข้าร่วมโครงการต่างๆ ที่อนุญาตให้ขายไฟฟ้าคืนได้เช่นกัน
ประเภทของ Solar Rooftop
พลังงานแสงอาทิตย์ไม่เพียงแต่สะอาด และยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าด้วย แต่ก่อนที่จะตัดสินใจติดตั้งนั้น Ewave จะพามารู้จักกับประเภทของ Solar Rooftop กันก่อนว่ามีประเภทไหนบ้าง
On Grid
ระบบ On Grid เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับการติดตั้ง Solar Rooftop เพราะไม่ต้องการแบตเตอรี่สำหรับการเก็บพลังงาน โดยระบบนี้จะใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์ร่วมกับไฟฟ้าจากโรงงานผลิตไฟฟ้า สำหรับบ้านที่มีการติดตั้งระบบขนาด 3kW, 5kW หรือ 10kW สามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินให้กับผู้ให้บริการไฟฟ้าได้
แต่อย่างไรก็ตาม การติดตั้งระบบนี้อาจมีความซับซ้อน เพราะต้องขออนุญาต และประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ก่อนที่จะสามารถดำเนินการได้ และที่สำคัญ หากเกิดไฟฟ้าดับในช่วงกลางวัน ระบบ On Grid จะไม่สามารถทำงานได้จนกว่าไฟฟ้าจะกลับมา
Off Grid
ระบบ Off Grid นั้นได้รับความนิยมรองลงมาสำหรับการติดตั้ง Solar Rooftop ซึ่งเหมาะสำหรับบ้านที่อยู่ห่างไกลจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าหลัก เช่น บ้านสวน หรือพื้นที่ที่การไฟฟ้าไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะระบบนี้ต้องใช้แบตเตอรี่สำหรับเก็บพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้งานในช่วงกลางคืน แต่ข้อจำกัดของระบบนี้คือ ในวันที่มีแสงแดดน้อย เช่น วันที่มีพายุ อาจทำให้พลังงานที่สะสมไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดทั้งคืน ดังนั้น การใช้ระบบ Off Grid อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีการวางแผน และคำนวณการใช้พลังงานให้สอดคล้องกับความต้องการในชีวิตประจำวันอย่างละเอียดด้วย
Hybrid
ระบบ Hybrid เป็นการผสมผสานข้อดีของระบบ On Grid และ Off Grid เข้าด้วยกัน โดยไม่จำเป็นต้องขายไฟฟ้าคืนให้กับผู้ให้บริการไฟฟ้า และยังสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องแม้ในช่วงที่ไฟฟ้าจากโรงงานดับก็ตาม แต่สำหรับระบบนี้ การติดตั้งก็ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน และอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเพราะต้องใช้อินเวอร์เตอร์ และแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับระบบ Hybrid จึงจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ทำไมจึงควรติดตั้ง Solar Rooftop
การติดตั้ง Solar Rooftop หรือระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความสนใจอย่างมากในยุคสมัยที่ความตระหนักเรื่องการอนุรักษ์พลังงาน และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญ แต่หลายๆ คนก็อาจจะยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมจึงควรติดตั้ง Solar Rooftop? มาหาคำตอบกัน!
ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
พลังงานจากดวงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานที่สะอาด และไม่มีวันหมดไป ซึ่งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ก่อให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อม หรือการใช้ทรัพยากรอย่างไม่ยั่งยืนอีกด้วย นอกจากนี้ Solar Rooftop ยังไม่มีการปล่อยมลพิษใดๆ ในกระบวนการผลิต และเนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับเชื้อเพลิง เพราะเพียงแค่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และรับแสงอาทิตย์ก็สามารถผลิตไฟฟ้าได้แล้ว จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมัน หรือถ่านหิน
ประหยัดค่าไฟ
หนึ่งในข้อดีที่ชัดเจนที่สุดของการติดตั้ง Solar Rooftop คือความสามารถในการลดค่าไฟฟ้า เพราะสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อการใช้งานภายในบ้านได้เอง ทำให้ต้องจ่ายเพียงแค่ค่าไฟฟ้าส่วนที่ใช้เกินจากการผลิตเท่านั้น แต่ถ้าหากใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าที่ผลิตได้ ก็สามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินนี้ให้กับผู้ให้บริการไฟฟ้าได้อีกด้วย ซึ่งโดยปกติแล้ว การติดตั้ง Solar Rooftop จะใช้เวลาคืนทุนประมาณ 7-8 ปี และตั้งแต่ปีที่ 9 จนถึงปีที่ 25 ซึ่งเป็นอายุการใช้งานของโซลาร์เซลล์ ผู้อยู่อาศัยจะได้รับประโยชน์จากการใช้ไฟฟ้าโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ ในปัจจุบันไฟฟ้าส่วนใหญ่ถูกผลิตจากน้ำมัน และถ่านหิน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีจำนวนจำกัด จึงทำให้ค่าไฟฟ้ามีความผันผวนตามราคาน้ำมัน และตามช่วงเวลาต่างๆ ดังนั้น การติดตั้งโซลาร์เซลล์จะช่วยให้สามารถควบคุมค่าไฟฟ้าได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยลดความไม่แน่นอนในรายจ่าย และช่วยให้การวางแผนทางการเงินมีความมั่นคงมากขึ้นด้วย
มีไฟใช้อย่างสม่ำเสมอ
การมีระบบ Solar Rooftop ที่บ้านเสมือนการมีโรงงานผลิตไฟฟ้าเล็กๆ อยู่ในบ้าน ด้วยพลังแห่งแสงอาทิตย์ จึงมีพลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเกิดข้อขัดข้องจากการไฟฟ้า หรือแม้แต่ภัยธรรมชาติที่ทำให้สายไฟฟ้าเสียหายก็ตาม นอกจากนี้ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ยังช่วยลดการสูญเสียพลังงานที่เกิดจากการส่งผ่านระยะทางไกลจากโรงไฟฟ้า ทำให้การใช้ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพ และความเสถียรมากยิ่งขึ้น
ช่วยลดความร้อนภายในบ้าน
การติดตั้ง Solar Rooftop เป็นการใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาด ไม่เพียงแต่ผลิตไฟฟ้าได้เองเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความต้องการใช้พลังงานจากแหล่งภายนอกได้อีกด้วย เพราะแผงโซลาร์เซลล์จะทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อน ช่วยลดอุณหภูมิที่ผิวหลังคา และลดการสะสมของความร้อนภายในบ้าน ซึ่งก็ถือเป็นการลดการใช้เครื่องปรับอากาศไปในตัวอีกด้วย
ประหยัดพื้นที่
การใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างบนหลังคา หรือดาดฟ้าของคุณเพื่อติดตั้ง Solar Rooftop นั้นเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดมาก เพราะช่วยประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง แม้จะมีพื้นที่บริเวณบ้านน้อย ก็สามารถติดตั้งได้อยู่ดี อีกทั้งยังเป็นการใช้สอยพื้นที่อย่างมีประโยชน์อีกด้วย
Solar Rooftop ช่วยประหยัดไฟได้จริงหรือไม่?
การติดตั้งระบบ Solar Rooftop สามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้จริง เพราะเป็นการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า ที่สามารถใช้งานได้ในบ้าน หรือในอาคารต่างๆ ซึ่งปริมาณไฟฟ้าที่ประหยัดได้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของแผงโซลาร์เซลล์ ประเภทของระบบ และปริมาณการใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การติดตั้ง Solar Rooftop สามารถประหยัดค่าไฟได้ถึง 30-60% เลย ตัวอย่างเช่น แผงโซลาร์เซลล์ขนาด 1 กิโลวัตต์สามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 500-1,000 บาทต่อเดือน เป็นต้น ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการประหยัดค่าไฟภายในบ้านในระยะยาวได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างรายได้ด้วยการขายไฟฟ้าคืนได้อีกด้วย
ข้อควรรู้ก่อนติดตั้ง Solar Rooftop
การไฟฟ้านครหลวง (MEA) กำลังสนับสนุนให้ลูกค้าในพื้นที่บริเวณกรุงเทพฯ และสมุทรปราการติดตั้งระบบ Solar Rooftop ในที่บ้าน อาคาร หรือสถานที่ทำงาน เพื่อเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ไฟฟ้าจำเป็นต้องได้รับอนุญาต และติดตั้งอุปกรณ์ตามมาตรฐานของ MEA ซึ่งจะต้องได้รับการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ไฟฟ้า และเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคง และคุณภาพของระบบจำหน่ายไฟฟ้าได้
เพราะสำหรับการติดตั้ง Solar Rooftop มีหลายสิ่งที่ควรพิจารณา เช่น การเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้ง ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งบนหลังคาที่ไม่มีความแข็งแรงเพียงพอ หรือมีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี และควรเลือกแผงโซลาร์ที่มีการรับประกันคุณภาพ เพื่อความมั่นใจในระยะยาวด้วย
วิธีติดตั้ง Solar Rooftop
การติดตั้งระบบ Solar Rooftop ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับบ้านที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย ก่อนที่จะเริ่มติดตั้งระบบ Solar Rooftop มีขั้นตอนสำคัญที่ควรทราบ รวมไปจนถึงอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น และปลอดภัย
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- แผงโซลาร์เซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Module)
- โครงสร้างรองรับ และอุปกรณ์ยึดแผงโซลาร์เซลล์ (Mounting)
- ตู้ไฟ AC และตู้ไฟฟ้า DC BOX (MDB Solar to Main Owner)
- อินเวอร์เตอร์ หรือเครื่องแปลงกระแสไฟ (Grid Tie Inverter)
ขั้นตอนการติดตั้ง
- ต้องทำการวิเคราะห์ และเข้าใจถึงปริมาณการใช้ไฟฟ้าในบ้านของคุณ เพื่อกำหนดขนาดของระบบโซลาร์เซลล์ที่เหมาะสม
- เลือกแผงโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม เพื่อกำหนดประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานของระบบ
- ตรวจสอบพื้นที่บนหลังคาว่ามีความเหมาะสมสำหรับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์หรือไม่ รวมถึงการประเมินทิศทาง และมุมของแผง เพื่อให้ได้รับแสงอาทิตย์อย่างเต็มที่
- ขออนุญาตติดตั้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทำการติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อความปลอดภัย และการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
- หลังจากติดตั้งระบบ Solar Rooftop แล้ว การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งาน และรักษาประสิทธิภาพให้คงที่ได้
บ้านแบบไหนที่เหมาะจะติดตั้ง Solar Rooftop
บ้านที่เหมาะสมกับการติดตั้ง Solar Rooftop คือบ้านที่มีการใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันสูง เช่น บ้านที่มีคนอยู่อาศัยในช่วงกลางวันหลายคน บ้านที่มีผู้สูงอายุ ครอบครัวใหญ่ โฮมออฟฟิศ รวมไปจนถึงห้างสรรพสินค้า หรืออาคารสำนักงานที่ต้องใช้ไฟฟ้ามากในเวลากลางวัน เพราะอาคารที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงในช่วงกลางวันจะได้ประโยชน์สูงสุดจากการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้ช่วยลดค่าไฟได้มากเลยทีเดียว
วิธีดูแลรักษา Solar Rooftop ให้ใช้ได้นาน
การดูแลรักษา Solar Rooftop เพื่อให้ใช้งานได้นาน และมีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น มีขั้นตอนดังนี้
- ควรล้างแผงโซลาร์เซลล์ปีละ 3-4 ครั้ง หากพื้นที่มีฝุ่น หรือสิ่งสกปรกมากกว่าปกติ อาจต้องล้างบ่อยขึ้น ด้วยการใช้น้ำสะอาดฉีด และไม้ม็อบเช็ดถูคราบฝุ่นให้สะอาด โดยห้ามขึ้นเหยียบบนแผงโซลาร์เซลล์
- ควรตรวจสอบรอยแตกร้าวของแผงโซลาร์เซลล์ หากพบว่าแผงโซลาร์เซลล์แตก หรือเสียหาย ควรดำเนินการซ่อมแซมทันที เพื่อป้องกันประสิทธิภาพที่อาจลดลงได้
- ควรตรวจสอบอินเวอร์เตอร์ ระบบควบคุม สายไฟ และเบรกเกอร์ให้สะอาดด้วยผ้าแห้ง เพื่อป้องกันความเสียหาย
- สำหรับระบบโซลาร์เซลล์แบบ Off-grid ควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ และดูแลการซ่อมแซมอย่างสม่ำเสมอ
- หมั่นตัดแต่งกิ่งไม้บริเวณ Solar Rooftop เพื่อไม่ให้บดบังแสงอาทิตย์สำหรับการผลิตไฟฟ้า
- ใช้ผ้าสะอาด หรือโฟมชุบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปราศจากสารเคมีกัดกร่อนโลหะ มาทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์
สรุป
การติดตั้งระบบ Solar Rooftop คือการลงทุนที่ส่งเสริมความยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมเพราะนอกจากจะช่วยลดค่าไฟฟ้า และลดการพึ่งพาพลังงานที่ไม่สะอาดแล้ว ยังช่วยส่งเสริมสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วยสำหรับผู้ที่สนใจติดตั้งระบบ Solar Rooftop การเลือกแผงโซลาร์เซลล์ที่มีคุณภาพ และการติดตั้งที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบโซลาร์เซลล์ การเลือกผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เฉพาะทางเพื่อให้คำแนะนำ และการติดตั้งที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น EWAVE ผู้นำในด้านธุรกิจพลังงานทดแทนที่ไม่ได้มีเพียงบริการการติดตั้งโซลาร์เซลล์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริการให้คำปรึกษาก่อนการติดตั้ง และบริการหลังการขาย ที่ครบจบในที่เดียว เพื่อความสะดวกสบาย และความมั่นใจของลูกค้า