Uncategorized

มัดรวม! 21 วิธีประหยัดไฟฟ้า ลดภาระค่าใช้จ่าย แถมช่วยอนุรักษ์พลังงาน

มัดรวม! 21 วิธีประหยัดไฟฟ้า ลดภาระค่าใช้จ่าย แถมช่วยอนุรักษ์พลังงาน

ปกติค่าไฟค่าไฟก็ไม่ใช่น้อยอยู่แล้ว ยิ่งเข้าช่วงหน้าร้อน ค่าไฟก็ยิ่งพุ่งขึ้นไปอีก แน่นอนว่าหลายบ้านมักจะกังวลเรื่องค่าไฟที่เพิ่มขึ้นจากเดือนอื่นๆ จนทำให้ค่าไฟแพง ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก จึงไม่แปลกที่หลายคนหันมาหาวิธีประหยัดไฟ เพราะค่าไฟฟ้าเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายรายเดือนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นทุกคนจึงไม่ควรพลาดวิธีประหยัดไฟฟ้าต้อนรับหน้าร้อน เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยัดพลังงานกันในบทความนี้

Table of Contents
    ไขข้อข้องใจ เครื่องใช้ไฟฟ้าไหนกินไฟมากที่สุด

    ไขข้อข้องใจ เครื่องใช้ไฟฟ้าไหนกินไฟมากที่สุด

    ทุกคนควรพิจารณาก่อนว่ามีเครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟตัวไหนในบ้านของเราบ้าง เพื่อที่จะได้ใช้งานอย่างประหยัดมากขึ้น ซึ่งต้องดูก่อนว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าในแต่ละเครื่องภายในบ้านนั้นใช้ไฟเป็นจำนวนกี่วัตต์ รวมถึงต้องดูจำนวนชั่วโมงที่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในแต่ละวันด้วย อย่างเช่น 

    1. ไดร์เป่าผม ใช้กำลังไฟ 2400 วัตต์ เมื่อใช้งานเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
    2. เครื่องปรับอากาศ ใช้กำลังไฟ 1570 วัตต์ หากเปิดใช้งานทั้งหมด 8 ชั่วโมง 
    3. หม้อทอดไร้น้ำมัน ใช้กำลังไฟถึง 1500 วัตต์ เมื่อใช้เวลาในการทอด 30 นาที
    การคำนวณค่าไฟฟ้าในครัวเรือน

    การคำนวณค่าไฟฟ้าในครัวเรือน

    ก่อนจะรู้ถึงวิธีประหยัดพลังงานไฟฟ้าที่เป็นวิธีในการช่วยลดค่าไฟและได้ผลจริงนั้น ต้องเริ่มทำความรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการคำนวณค่าไฟฟ้าเบื้องต้นก่อน โดยสามารถคิดคำนวณค่าไฟฟ้าในแต่ละประเภทได้เหมือนกัน ซึ่งการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจัดเป็นประเภทที่ 1 ที่มีสูตรพร้อมค่าต่างๆ ที่ใช้ในการคำนวณ ซึ่งการคำนวณค่าไฟฟ้านั้นถือเป็นการวางแผนในการประหยัดไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพอีกหนึ่งวิธี โดยสามารถคำนวณตามสูตรได้ดังนี้

    นำตัวเลขสองอย่างมาทำการคำนวณเพื่อหาจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ไปในแต่ละเดือน โดยจะใช้สูตรตามวิธีนี้ คือ

    • สูตรการคำนวณกำลังไฟฟ้า (วัตต์) = พลังงานไฟฟ้า (จูล) หารด้วย เวลา (วินาที)
    • การคำนวณพลังงานไฟฟ้า (ยูนิต) = กำลังไฟฟ้า (วัตต์) คูณด้วย เวลา (ชั่วโมง) หารด้วย 1000

    ดังนั้น การคำนวณค่าไฟฟ้า = จำนวนยูนิต คูณด้วย อัตราค่ากระแสไฟฟ้าต่อหน่วย

    รวบรวม 21 วิธีประหยัดไฟฟ้า ประหยัดพลังงาน แถมสบายกระเป๋า

    รวบรวม 21 วิธีประหยัดไฟฟ้า ประหยัดพลังงาน แถมสบายกระเป๋า

    เมื่อได้ทราบถึงการคำนวณค่าไฟเบื้องต้นแล้ว ก็มาดูวิธีช่วยประหยัดไฟที่เซฟค่าใช้จ่าย ทำให้ทุกคนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟแพงอีกต่อไป ซึ่งทางเว็บไซต์ได้มีการรวบรวม 21 วิธีการประหยัดไฟฟ้า ประหยัดพลังงาน ที่ทุกท่านสามารถทำตามได้ง่ายๆ และยังได้ผลลัพธ์ที่ดีตามมาอีกด้วย โดยมีวิธีการดังนี้

    1. ใช้หลอดไฟ LED

    หลอดไฟชนิดนี้จะประกอบด้วยสารกึ่งตัวนำที่อยู่ภายใน เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านสารกึ่งตัวนำจึงทำให้สารเกิดการเรืองแสง มีประสิทธิภาพในการให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟแบบธรรมดา โดยจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า มีความทนทานกว่า จึงช่วยลดค่าไฟฟ้าได้มากกว่าหลอดไฟแบบทั่วไป 

    2. ใช้ระบบ Smart Home

    ระบบบ้านอัจฉริยะ นี้ได้มีการถูกออกแบบมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการใช้สอยในบ้าน ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่มีความเหมาะสมกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการให้บ้านเป็นมากกว่าที่พักอยู่อาศัย และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ครบทุกรูปแบบ เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าที่สร้างความสะดวก

    3. ซักผ้าด้วยน้ำเย็น

    การซักผ้าถือเป็นงานบ้านที่มีความจำเป็น และเป็นงานบ้านประเภทหนึ่งที่จะต้องทำในแต่ละสัปดาห์ โดยจากการตรวจสอบพบว่าหากใช้น้ำร้อนในการซักผ้า จะมีการใช้พลังงานถึง 90% แต่สำหรับการซักผ้าด้วยน้ำเย็นนั้นจะช่วยลดการใช้พลังงานได้ เพราะสามารถช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ฝังอยู่บนผ้าได้ง่ายกว่า และยังสามารถช่วยยืดอายุเสื้อผ้าได้อีกด้วย 

    4. ตั้งเวลาเปิด-ปิดแอร์

    สำหรับการตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟ เพราะในช่วงหน้าฝนหรือหน้าหนาวที่มีอากาศภายนอกเย็นสบาย การตั้งเวลาในการเปิด-ปิดอัตโนมัติจะทำให้ช่วยลดการใช้งานของเครื่องปรับอากาศได้ดี จึงช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น 

    5. เปิดหน้าต่างรับลมธรรมชาติ

    การเปิดหน้าต่างรับลมจากธรรมชาติจะสามารถใช้ได้กับบ้านที่ไม่ค่อยร้อน หรือสถานที่ที่มีต้นไม้เป็นจำนวนมาก โดยการเปิดหน้าต่างรับลมจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าจากการเปิดแอร์หรือพัดลมได้ดี แถมยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย เพราะหากอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อโรคหรือการเกิดโรคได้ ซึ่งวิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการประหยัดไฟฟ้าที่แนะนำให้ทุกคนได้ลองนำไปใช้

    6. เปิดหน้าต่างรับแสงแดดธรรมชาติ

    แสงแดดเป็นตัวช่วยให้เกิดความสว่างโดยธรรมชาติ หากในช่วงเวลากลางวันมีการเปิดผ้าม่านเพื่อให้แสงแดดส่องถึงภายในบ้าน ก็จะเป็นอีกหนึ่งวิธีประหยัดไฟฟ้าที่ทำให้สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้จริง เพราะไม่จำเป็นต้องเปิดไฟในบ้านหลายดวง จึงช่วยลดการใช้พลังงานลงได้

    7. เปิดพัดลมพร้อมแอร์

    สำหรับวิธีเปิดแอร์พร้อมพัดลมเพื่อให้ประหยัดไฟ เป็นวิธีการใช้พัดลมเป่าลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศให้กระจายไปยังทั่วห้องได้เร็วขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้ต่ำลง จึงช่วยทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง และประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้มากขึ้น 

    8. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน

    บางครั้งที่อุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละชนิดถูกใช้งานพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว พัดลม กระทะไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าเราอาจจะไม่รู้ว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าตัวไหนบ้างที่กินไฟสูง จึงควรสังเกตอยู่เสมอว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าไหนที่ใช้งานเสร็จ จากนั้นจึงปิดอุปกรณ์นั้นพร้อมทั้งถอดปลั๊กออก เพื่อไม่ให้ค่าไฟเพิ่มขึ้น

    9. เช็กมิเตอร์ไฟสม่ำเสมอ

    สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยคือการตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะทำให้ได้รู้ถึงจำนวนไฟที่ใช้ไปในแต่ละเดือนว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลง ซึ่งหลายครั้งที่ค่าไฟพุ่งสูงขึ้น อาจจะไม่ได้มาจากการใช้ไฟฟ้า แต่อาจเกิดจากตัวมิเตอร์มีความผิดปกติ เกิดการเสียหาย หรือการชำรุด เมื่อมีการสังเกตจึงทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที 

    10. ไม่ใช้ความร้อนเมื่อเปิดแอร์

    วิธีประหยัดพลังงานไฟฟ้าอีกวิธีหนึ่งคือไม่ใช้ความร้อนเมื่อเปิดแอร์ เพราะแอร์จะทำงานโดยการดูดอากาศร้อนเข้าไปและทำให้เย็นลง จากนั้นจึงปล่อยอากาศเย็นออกมา โดยกระบวนการนี้จะต้องใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งหากสามารถลดปริมาณความร้อนที่ต้องดูดออกไปได้มากเท่าไร แอร์ก็จะทำงานน้อยลงเท่านั้น นอกจากนี้หากปิดประตู หน้าต่างและติดผ้าม่านในขณะที่เปิดแอร์ ก็จะช่วยป้องกันความร้อนและแสงแดดที่ทำให้เกิดความร้อนภายในได้ ช่วยให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก

    11. จัดตู้เย็นให้มีระเบียบเรียบร้อย

    สำหรับการจัดตู้เย็นให้มีระเบียบสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการไม่วางของให้ติดกันจนแออัด มีการแยกประเภทของวัตถุดิบ เพื่อให้หาเจอและหยิบใช้ได้ง่าย โดยการจัดตู้เย็นจะช่วยให้ตู้เย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นอีกหนึ่งวิธีประหยัดไฟฟ้า เพราะหากอากาศภายในตู้เย็นสามารถหมุนเวียนได้อย่างทั่วถึงและสามารถรักษาอุณหภูมิภายในตู้เย็นให้คงที่ได้ ก็จะช่วยถนอมอาหารและยืดอายุอาหารไว้ได้ อีกทั้งยังช่วยลดการเปิด-ปิดตู้เย็นได้ เพราะทำให้สามารถหยิบของในตู้เย็นได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องเปิดตู้เย็นบ่อยๆ 

    12. เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5

    การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5 เพราะฉลากเบอร์ 5 นี้คือหมายเลขที่สื่อถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยมาจากเกณฑ์การวัดประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าในแต่ละประเภท แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ซึ่งเบอร์ 5 เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูงสุดและประหยัดไฟฟ้าได้ดีที่สุด

    13. เช็กค่าไฟเป็นประจำ

    การตรวจสอบค่าไฟฟ้าเป็นประจำจะช่วยลดค่าไฟได้ เพราะช่วยให้ทราบถึงปริมาณการใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือน รวมทั้งยังสามารถนำไปเปรียบเทียบค่าไฟฟ้ากับแต่ละเดือนก่อนหน้าได้ เพื่อเป็นการหาสาเหตุของค่าไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นวิธีการประหยัดไฟฟ้าอีกหนึ่งรูปแบบที่ควรทำเช่นกัน

    14. ใช้เซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหว

    การใช้เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทันสมัย สามารถช่วยลดการใช้งานของเครื่องปรับอากาศและหลอดไฟภายในบ้านได้ดีที่สุด โดยเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวนี้สามารถทำให้ระบบปรับอากาศทำงานได้โดยอัตโนมัติตามที่มีคนเคลื่อนไหวในห้อง หรือทำให้ไฟเปิดใช้งานเมื่อมีคนเข้ามาในห้องและปิดเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้อง 

    15. ติดตั้งหน้าต่างประหยัดพลังงาน

    สำหรับการเพิ่มและการสูญเสียความร้อนผ่านหน้าต่างสามารถคิดได้เป็น 30% ของพลังงานความร้อนและความเย็นในบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเลือกติดตั้งหน้าต่างที่ช่วยประหยัดพลังงาน อย่างเช่น การเลือกกระจกหน้าต่างที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของหน้าต่าง เพราะจะทำหน้าที่เป็นช่องทางในการรับแสงสว่างจากภายนอกเข้าสู่ภายใน การเลือกกระจกหน้าต่างที่เหมาะสมจึงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในตัวบ้านให้เหมาะสมและประหยัดพลังงานได้ดีที่สุด

    16. อย่าลืมทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า

    เครื่องปรับอากาศ เครื่องดูดฝุ่น หรือเครื่องฟอกอากาศ เมื่อมีการใช้งานเป็นระยะเวลานานแล้วไม่ได้มีการดูแลทำความสะอาด นอกจากจะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนักขึ้นโดยที่ไม่จำเป็น ซึ่งอาจส่งผลต่อค่าไฟได้ การทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจึงเป็นอีกวิธีประหยัดไฟฟ้าที่ดีที่สุด

    17. ซ่อมบ้านไม่ให้ความร้อนเข้ามาในบ้าน

    การปรับเปลี่ยนบ้านเพื่อไม่ให้ความร้อนเข้ามาในตัวบ้าน ควรมีการติดตั้งฉนวนกันความร้อน เพราะจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและค่าไฟฟ้าได้ ซึ่งฉนวนชนิดนี้จะช่วยในการกักเก็บความร้อนในช่วงฤดูหนาวและกันความร้อนในช่วงฤดูร้อนได้ดี โดยจะต้องทำการติดตั้งในตัวบ้านไม่ว่าจะเป็นห้องใต้หลังคา ห้องใต้ดิน ผนัง พื้น เป็นต้น

    18. รีดผ้าทีละหลายตัว

    แน่นอนว่าสำหรับหลายท่านอาจจะไม่สะดวกสำหรับการใช้เวลาหลายชั่วโมงกับการรีดผ้า เลยจะใช้วิธีการรีดผ้าทุกวันแทน จะใส่ชุดไหนในวันนั้นก็เลือกรีดแค่ชุดนั้น แต่วิธีนี้ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาในการรีดผ้าเพียงไม่นาน แต่จะเป็นการเพิ่มค่าไฟฟ้าให้สูงขึ้นได้ ซึ่งการรีดผ้าครั้งละมากๆ ถือเป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ต้องเปิดใช้อุปกรณ์บ่อยๆ จึงทำให้การใช้พลังงานของเครื่องไฟฟ้าชนิดนี้ลดลง และช่วยส่งผลให้ค่าไฟฟ้าถูกลงตามไปด้วย 

    19. แต่งกายให้เหมาะกับสภาพอากาศ

    ฤดูร้อนก็ควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าบางเบา โดยส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าที่มีการผลิตจากเส้นใหญ่ธรรมชาติ อย่างผ้าลินินหรือผ้าฝ้าย เน้นใส่สีสว่างสดใส เพื่อให้สามารถระบายอากาศและดูดซับเหงื่อได้ดี จะได้ไม่ต้องเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่ต่ำเกินไป เปิดพัดลมพร้อมกับการเปิดแอร์ไปด้วยก็เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าได้ดี 

    20. ปลูกต้นไม้บริเวณบ้านเรือน

    สำหรับวิธีการปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้านเรือนนั้น เป็นวิธีการประหยัดไฟฟ้าแบบยั่งยืน แต่ไม่สามารถใช้ได้กับทุกบ้าน แต่สำหรับบ้านใครพอจะมีพื้นที่ที่สามารถปลูกต้นไม้ได้ก็แนะนำว่าให้ปลูกต้นไม้ไว้ เพราะอย่างน้อยก็ช่วยสร้างความร่มรื่นให้กับบ้าน ช่วยลดความร้อนได้ แต่หากใครไม่มีพื้นที่มากเพียงพอที่จะปลูกต้นไม้ใหญ่ แนะนำให้เลือกปลูกต้นไม้ในกระถางแล้วจัดเรียงที่ระเบียง เพื่อที่จะให้ได้รับอากาศสดชื่นจากต้นไม้เหล่านั้น

    21. ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์

    โซลาร์เซลล์คืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงพลังงานจากแสงพระอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาก็เป็นอีกหนึ่งวิธีประหยัดไฟฟ้า เพราะจะเปลี่ยนจากการใช้ไฟฟ้าส่วนกลางมาเป็นการใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์แทน หากมีการติดตั้งแผงที่มีขนาดใหญ่ก็จะช่วยให้มีไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น ใช้ไฟฟ้าจากส่วนกลางน้อยลง จึงเป็นตัวช่วยที่ทำให้มีค่าไฟน้อยลงตามไปด้วย 

    สรุป

    สำหรับใครที่สะดวกจะใช้วิธีการประหยัดไฟฟ้าแบบไหนก็สามารถนำไปทำตามกันได้ ควรเน้นประหยัดไฟฟ้าด้วยการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น และปิดทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน แน่นอนว่าวิธีประหยัดไฟฟ้าที่เราแนะนำจะเป็นผลดีสำหรับหลายบ้าน เพียงแค่ท่านปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อแลกกับการประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย ส่วนใครต้องการปรึกษาหรือหาแนวทางในการประหยัดไฟฟ้าเพิ่มเติม สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ EWAVE เราพร้อมที่จะให้คำปรึกษาและบริการเกี่ยวกับการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อให้คุ้มค่าและตรงกับการใช้ไฟฟ้าของบ้านคุณมากที่สุด