โซลาร์เซลล์

โซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มผลกำไรให้เกษตรกร

โซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มผลกำไรให้เกษตรกร
Table of Contents

    Key Takeaway

    • โซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร เริ่มเมื่อเกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของการลดต้นทุนด้านพลังงานและการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน แม้มีค่าติดตั้งสูงแต่ค่าบำรุงรักษาต่ำ และมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 25-30 ปี 
    • การใช้โซลาร์เซลล์ในการเกษตรคือการนำโซลาร์เซลล์มาใช้ในภาคเกษตร ทั้งบนหลังคา พื้นดิน หรือลอยน้ำ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ระบบไฟฟ้ากระแสตรง (DC) และระบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC)
    • ประโยชน์ของการใช้โซลาร์เซลล์ในการเกษตรคือลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจเกษตร โดยประยุกต์ใช้กับระบบสูบน้ำ ระบบให้น้ำอัตโนมัติ ใช้ในโรงเรือนเกษตร และการแปรรูปผลผลิต
    • รัฐบาลไทยได้มีการออกนโยบายและมาตรการสนับสนุนโซลาร์เซลล์ในภาคเกษตร เช่น การจัดทำโครงการนำร่องติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับเกษตรกรในพื้นที่นำร่อง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

    วงการเกษตรไทยกำลังพลิกโฉมด้วยโซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร เป็นทางเลือกใหม่ในการลดค่าไฟฟ้า ช่วยเพิ่มผลผลิต เพื่อปรับตัวสู่ยุคเกษตรสมัยใหม่ที่ยั่งยืนกว่าเดิม ซึ่งโซลาร์เซลล์ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย 

    บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร พร้อมเทคนิคการเลือกโซลาร์เซลล์ไปใช้งานให้ถูกประเภท และคำแนะนำสำหรับเกษตรกรที่สนใจนำโซลาร์เซลล์มาใช้ภาคเกษตรกรรม

    โซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร ทางเลือกใหม่ที่ยั่งยืนกว่าเดิม

    โซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร ทางเลือกใหม่ที่ยั่งยืนกว่าเดิม

    โซลาร์เซลล์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง อาศัยหลักการทางฟิสิกส์ที่เรียกว่า “ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก” (Photoelectric Effect) เมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบบนแผงโซลาร์เซลล์ จะเกิดการปล่อยอิเล็กตรอนออกมา ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าที่สามารถนำไปใช้งานได้ทันที

    การนำโซลาร์เซลล์มาใช้ในภาคเกษตรพอเพียง เริ่มต้นขึ้นเมื่อเกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของการลดต้นทุนด้านพลังงานและต้องการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่การเข้าถึงไฟฟ้าจากระบบสายส่งเป็นไปได้ยากหรือมีค่าใช้จ่ายสูง แม้จะมีค่าติดตั้งสูงในตอนแรก แต่ค่าบำรุงรักษาต่ำ และมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 25-30 ปี สามารถติดตั้งได้ทั้งบนหลังคา พื้นดิน หรือแม้แต่ลอยน้ำ

    ประเภทของโซลาร์เซลล์ที่นิยมใช้ในการเกษตร

    การใช้โซลาร์เซลล์ในการเกษตรสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามลักษณะของกระแสไฟฟ้าที่ผลิต ดังนี้

    ระบบไฟฟ้ากระแสตรง (DC) 

    ระบบไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ผลิตไฟฟ้าโดยตรงจากแผงโซลาร์เซลล์ เหมาะสำหรับฟาร์มขนาดเล็กถึงกลาง และการใช้งานกับอุปกรณ์ที่ใช้ไฟ DC เช่น ปั๊มน้ำ หลอดไฟ LED หรือระบบให้น้ำอัตโนมัติ เป็นต้น ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากไม่ต้องแปลงไฟเป็นกระแสสลับ อีกทั้งยังติดตั้งง่ายและต้นทุนต่ำกว่าระบบ AC

    ระบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) 

    ระบบนี้ใช้อุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) เพื่อเปลี่ยนไฟ DC จากแผงโซลาร์เซลล์ให้เป็น AC เหมาะสำหรับฟาร์มขนาดใหญ่หรือการใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าหลักได้ มีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับกับการขยายระบบในอนาคต

    ประโยชน์ของโซลาร์เซลล์ในภาคเกษตร

    ประโยชน์ของโซลาร์เซลล์ในภาคเกษตร

    การใช้โซลาร์เซลล์ในการเกษตรนั้นมีประโยชน์มากมาย ทั้งในแง่ของการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจเกษตร โดยมีรายละเอียดของประโยชน์แต่ละด้าน ดังนี้

    การลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานระยะยาว

    การติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตรสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งครั้งแรกแต่เมื่อเทียบกับการใช้ไฟฟ้าโดยปกติ โซลาร์เซลล์จะคุ้มค่ากว่าในระยะยาว

    ตัวอย่างเช่น ฟาร์มมีค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเดือนละ 10,000 บาท หากติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 80% ของความต้องการ จะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน หรือ 96,000 บาทต่อปี ซึ่งใช้เวลาเพียง 5-7 ปี ในการคืนทุน

    ความเสถียรของแหล่งพลังงาน ลดการใช้ไฟฟ้าจากภายนอก

    โซลาร์เซลล์ช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้พลังงานโดยพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น รวมถึงลดความเสี่ยงจากปัญหาไฟฟ้าดับหรือไฟตก ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อกระบวนการผลิตหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าในฟาร์ม

    ตัวอย่างเช่น ฟาร์มเพาะเห็ดที่ต้องควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอย่างเคร่งครัด หากไฟฟ้าจากภายนอกมีปัญหา การมีระบบโซลาร์เซลล์พร้อมแบตเตอรี่สำรองไฟ จะช่วยให้ระบบควบคุมสภาพแวดล้อมทำงานได้อย่างต่อเนื่อง จึงช่วยรักษาคุณภาพผลผลิต และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

    การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต

    การมีแหล่งพลังงานที่เสถียรและมีต้นทุนต่ำ เปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถนำเทคโนโลยี และเครื่องจักรที่ทันสมัยมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้มากขึ้น

    ตัวอย่างเช่น การใช้ระบบให้น้ำอัตโนมัติที่ทำงานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยให้พืชได้รับน้ำในปริมาณที่เหมาะสมและตรงเวลา ส่งผลให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นและมีคุณภาพดีขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นจากการใช้ระบบอัตโนมัติ

    เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเกษตรยั่งยืน

    การติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษ เพื่อการทำการเกษตรที่ยั่งยืน อีกทั้งยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผลิตภัณฑ์การเกษตร

    ตัวอย่างเช่น ฟาร์มออร์แกนิกที่ใช้พลังงานสะอาดจากโซลาร์เซลล์ในการผลิต สามารถสร้างจุดขาย และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ได้ เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับสินค้าที่ผลิตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

    การประยุกต์ใช้โซลาร์เซลล์ในการเกษตร

    การประยุกต์ใช้โซลาร์เซลล์ในการเกษตร

    การประยุกต์ใช้โซลาร์เซลล์ในการเกษตรมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการพัฒนาภาคเกษตรกรรมให้ก้าวหน้าและยั่งยืน โดยสามารถนำมาใช้ได้หลากหลายรูปแบบ ดังนี้

    ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์

    ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เป็นหนึ่งในการประยุกต์ใช้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่แล้วพื้นที่ที่สูบน้ำมักเข้าถึงไฟฟ้าได้ยาก หากใช้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จะช่วยสูบน้ำได้แม้ในพื้นที่ห่างไกล อีกทั้งยังบำรุงรักษาง่ายและมีอายุการใช้งานยาวนาน

    ระบบให้น้ำอัตโนมัติ

    การนำโซลาร์เซลล์มาประยุกต์ใช้ในระบบให้น้ำอัตโนมัติ มีประโยชน์มากโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำ อีกทั้งการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ช่วยลดต้นทุนพลังงาน และเพิ่มความยั่งยืนให้กับระบบการเกษตร

    ตัวอย่างเช่น มีการพัฒนาเพื่อควบคุมการให้น้ำกระเทียมโดยใช้เซนเซอร์วัดความชื้นในดิน และระบบควบคุมผ่านสมาร์ตโฟน ทำให้สามารถลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้

    การใช้งานในโรงเรือนเกษตร

    โซลาร์เซลล์สามารถนำมาใช้ในโรงเรือนเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะช่วยควบคุมสภาพแวดล้อมภายในโรงเรือน ลดค่าใช้จ่ายในการเดินระบบไฟฟ้า อีกทั้งยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการวางตำแหน่งโรงเรือน

    การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร

    การใช้โซลาร์เซลล์ในกระบวนการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรช่วยลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว และยังเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยการใช้พลังงานสะอาด

    ตัวอย่างเช่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตกล้วยตากในชนบท ได้ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์เพื่อจ่ายไฟให้กับเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยลดระยะเวลาในการผลิตและเพิ่มกำลังการผลิตได้

    นโยบายและการสนับสนุนจากภาครัฐ

    รัฐบาลไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของพลังงานทดแทน จึงได้มีการออกนโยบายและมาตรการสนับสนุนต่างๆ ให้กับโซลาร์เซลล์ในภาคเกษตร ดังนี้

    • โครงการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในภาคเกษตร: กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดทำโครงการติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับเกษตรกรในพื้นที่นำร่อง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งให้ความรู้ในการใช้งานและบำรุงรักษา
    • มาตรการทางภาษี: รัฐบาลมีนโยบายยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับอุปกรณ์โซลาร์เซลล์ที่ใช้ในภาคเกษตร และให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับเกษตรกรที่ลงทุนในระบบพลังงานทดแทน
    • สินเชื่อพิเศษสำหรับเกษตรกร: ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จัดทำโครงการสินเชื่อพิเศษสำหรับเกษตรกรที่ต้องการลงทุนในระบบโซลาร์เซลล์ โดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำและระยะเวลาผ่อนชำระนานถึง 10 ปี
    • การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะ: กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จัดหลักสูตรฝึกอบรมให้กับเกษตรกร และช่างท้องถิ่นในการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบโซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร

    สรุป

    โซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตรนับเป็นนวัตกรรมที่มีประโยชน์อย่างมากต่อภาคเกษตรกรรมไทย เพราะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าและลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล สำหรับเกษตรกรที่สนใจนำโซลาร์เซลล์มาใช้ในฟาร์ม แนะนำ Ewave Thai ผู้ให้บริการโซลูชั่นพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำของประเทศไทย ด้วยบริการครบวงจรและมาตรฐานการให้บริการระดับสูง เหมาะสำหรับการทำเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรในระยะยาว แต่ยังสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจเกษตรและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย