โซลาร์เซลล์

ไฟฟ้าสถิตเกิดจากอะไร? ป้องกันอย่างไรไม่ให้รบกวนชีวิตประจำวัน

ไฟฟ้าสถิตเกิดจากอะไร? ป้องกันอย่างไรไม่ให้รบกวนชีวิตประจำวัน
Table of Contents

    Key Takeaway

    • ไฟฟ้าสถิต คือการสะสมของประจุไฟฟ้าที่ไม่สมดุลระหว่างขั้วบวกและขั้วลบ มักเกิดจากการเสียดสีระหว่างวัตถุ เมื่อสัมผัสจะเกิดการช็อตเล็กๆ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
    • ไฟ้าสถิตเกิดจากการสะสมของประจุไฟฟ้าที่ไม่สมดุลและประจุถ่ายเทอย่างรวดเร็ว เมื่อสัมผัสจะทำให้รู้สึกเหมือนไฟช็อต ต่างจากไฟดูดที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าแรงสูงไหลผ่านร่างกาย ซึ่งมีความเสี่ยงและอันตรายมากกว่า
    • สาเหตุไฟฟ้าสถิตเกิดจากอากาศหนาวหรืออากาศแห้ง การเสียดสีระหว่างวัตถุ และการที่ร่างกายสัมผัสโดยวัตถุนำไฟฟ้าที่รวดเร็วเกินไป
    • วิธีป้องกันไฟฟ้าสถิตทำได้โดยใช้เครื่องทำความชื้น ทาครีมบำรุงผิวเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น เลือกใส่เสื้อผ้าฝ้ายแทนผ้าสังเคราะห์ ใส่รองเท้าหนังแทนรองเท้ายาง ไม่สัมผัสกับโลหะบ่อยๆ

    เคยสังเกตไหมว่า ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศแห้งและเย็น เมื่อมือไปสัมผัสสิ่งของ เช่น ลูกบิดประตู หรือราวบันได แล้วรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตเล็กๆ ทำให้หลายคนเจอเหตุการณ์นี้บ่อยเกิดอาการกลัวจนไม่กล้าจับอะไร ในบทความนี้จะพาไปรู้จักไฟฟ้าสถิตคืออะไร? เกิดจากอะไร? และไฟฟ้าสถิตในร่างกายอันตรายไหม? พร้อมมาดูวิธีป้องกันที่สามารถเข้าใจหลักการทางวิทยาศาสตร์แบบง่ายๆ ได้ในบทความนี้เลย

    คลายข้อสงสัย! ไฟฟ้าสถิตคืออะไร อันตรายไหม?

    คลายข้อสงสัย! ไฟฟ้าสถิตคืออะไร อันตรายไหม?

    ไฟฟ้าสถิต (Static electricity) คือการสะสมของประจุไฟฟ้าบนพื้นผิวของวัตถุหรือร่างกายที่ไม่สมดุลกันระหว่างขั้วบวกและขั้วลบ ซึ่งไฟฟ้าสถิตเกิดจากการเสียดสีหรือสัมผัสกันระหว่างสองวัตถุ การหวีผมแห้งๆ การถูเสื้อผ้า หรือเดินบนพรมแล้วไปจับลูกบิดประตู จึงทำให้เกิดการสะสมของประจุไฟฟ้าและเมื่อไปสัมผัสกับวัตถุอื่นๆ ก็ทำให้ประจุไฟฟ้าถ่ายเทอย่างรวดเร็ว จนเกิดการช็อตเล็กๆ นั่นเอง

    ส่วนใหญ่แล้วไฟฟ้าสถิตไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะเป็นกระแสไฟฟ้าที่มีพลังงานต่ำและเกิดในช่วงเวลาสั้นๆ ที่อาจทำให้ตกใจและสร้างความน่ารำคาญเมื่อเกิดขึ้นบ่อยๆ เท่านั้น แต่หากเกิดไฟฟ้าสถิตในระดับที่รุนแรง ก็อาจจะทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหายได้

    สาเหตุไฟฟ้าสถิตเกิดจากอะไร

    สาเหตุไฟฟ้าสถิตเกิดจากอะไร

    สาเหตุหลักของไฟฟ้าสถิตมักเกิดจากการเสียดสีกันระหว่างสองวัตถุ แต่ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น

    การเสียดสีกันของวัตถุ

    การเสียดสีกันระหว่างวัตถุทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ เช่น การถูลูกโป่งกับเส้นผม การเดินบนพรม หรือการใช้หวีพลาสติกหวีผมแห้งๆ จะทำให้ประจุไฟฟ้าถ่ายเทอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการช็อตเล็กๆ ระหว่างสัมผัสกับวัตถุแต่ละชื้น

    การสัมผัสวัตถุนำไฟฟ้า

    สาเหตุของการเกิดไฟฟ้าสถิตอาจเกิดจากการสัมผัสวัตถุนำไฟฟ้า เช่น ลูกบิดประตูโลหะ ราวบันได หรือสายไฟ ทำให้เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้าระหว่างวัตถุกับร่างกาย จนทำให้เกิดเป็นไฟฟ้าสถิตได้

    อากาศแห้ง

    ในช่วงที่อากาศแห้งหรือความชื้นต่ำ เช่น ฤดูหนาว จะทำให้ไฟฟ้าสถิตสะสมได้ง่ายขึ้น เพราะอากาศแห้งทำให้ประจุไฟฟ้าถ่ายเทได้รวดเร็ว ส่งผลให้เมื่อสัมผัสกับวัตถุที่เป็นตัวนำไฟฟ้า ทำให้รู้สึกจี๊ดๆ ที่มือหรือร่างกายคล้ายกับโดนไฟช็อต

    รวม 6 วิธีป้องกันไฟฟ้าสถิต

    รวม 6 วิธีป้องกันไฟฟ้าสถิต

    เมื่อเข้าฤดูหนาวหรือต้องเจอกับอากาศแห้งและเย็นเกินไป หลายคนมักเจอกับปัญหาไฟฟ้าสถิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นหากเกิดไฟฟ้าสถิตในร่างกาย ก็มีวิธีแก้ไขเพื่อไม่ให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนี้

    1. เปิดเครื่องทำความชื้น

    ใช้เครื่องทำความชื้นภายในบ้านหรือภายในห้อง จะช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศและลดการสะสมของไฟฟ้าสถิตได้ นอกจากนี้การเปิดหน้าต่างระบายอากาศเพื่อให้อากาศไหลเวียนก็ช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศได้เช่นกัน

    2. เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเสมอ

    การทามอยส์เชอไรเซอร์หรือครีมบำรุงผิว จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวไม่แห้งและช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิตในร่างกายจากการเสียดสีของผิวกับเสื้อผ้าหรือพรมได้

    3. เลือกใส่ผ้าฝ้าย

    เสื้อผ้าฝ้ายช่วยป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตในร่างกายได้ เพราะผ้าฝ้ายไม่สะสมประจุไฟฟ้าและช่วยลดการเสียดสีระหว่างเนื้อผ้ากับผิวหนัง ทำให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าสถิต ต่างจากผ้าขนสัตว์ ผ้าไนลอน และผ้าพอลิเอสเตอร์ที่ทำให้เกิดการสะสมของประจุไฟฟ้าได้ง่ายกว่า

    4. ใส่รองเท้าหนังแทนรองเท้ายาง

    หนังเป็นวัสดุที่มีรูเล็กๆ และไม่สะสมประจุไฟฟ้าทำให้การสวมรองเท้าหนังช่วยลดการสะสมประจุไฟฟ้าได้ดีกว่ารองเท้ายาง และควรหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าพื้นยางเดินบนพรมที่ทำจากไนลอนหรือขนสัตว์ เพราะอาจเกิดการเสียดสีระหว่างพื้นยางกับพรมที่อาจทำให้เกิดประจุไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น

    5. ใช้แผ่นอบผ้าใส่เครื่องอบผ้า

    การใส่แผ่นอบผ้า (Dryer Sheet) ขณะอบผ้าจะช่วยให้ผ้ามีกลิ่นหอมและไม่ทำให้ผ้าแห้งกรอบ โดยแผ่นอบผ้าจะช่วยลดการเสียดสีระหว่างเนื้อผ้าไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตเมื่อสวมใส่ รวมถึงการใช้แผ่นอบผ้าถูเบาะรถ ก็ยังช่วยลดไฟฟ้าสถิตที่เกิดขึ้นภายในรถได้อีกด้วย

    6. สัมผัสวัตถุโลหะบ่อยๆ

    โลหะเป็นวัสดุนำไฟฟ้าหากสัมผัสกับวัตถุที่เป็นโลหะบ่อยๆ จะช่วยให้ร่างกายสามารถถ่ายโอนประจุไฟฟ้าไปยังโลหะเหล่านั้นได้ ซึ่งจะช่วยปรับประจุในร่างกายให้สมดุล เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตเมื่อสัมผัสกับพื้นผิวต่างๆ

     ไฟฟ้าสถิตต่างจากไฟดูดอย่างไร

    ไฟฟ้าสถิตต่างจากไฟดูดอย่างไร

    ไฟฟ้าสถิตต่างจากไฟดูดตรงที่ ไฟฟ้าสถิตเกิดจากการสะสมของประจุไฟฟ้าบนพื้นผิววัตถุ เป็นพลังงานต่ำในช่วงเวลาสั้น ที่เมื่อสัมผัสโดนจะทำให้รู้สึกเหมือนไฟช็อตเล็กๆ ส่วนไฟดูดเกิดจากการไหลของกระแสไฟฟ้าแรงสูงอย่างต่อเนื่องผ่านร่างกาย ซึ่งเกิดความเสี่ยงและอันตรายมากกว่าเพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรืออันตรายถึงชีวิตได้

    สรุป

    ไฟฟ้าสถิตมักเกิดในช่วงฤดูหนาวหรือการอยู่ในที่ที่อากาศแห้ง โดยไฟฟ้าสถิตเกิดจากการสะสมของประจุไฟฟ้าที่ไม่สมดุลกันระหว่างขั้วบวกและขั้วลบ เมื่อมีการเสียดสีระหว่างร่างกายกับวัตถุอื่นๆ จะทำให้เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้าที่อาจทำให้เกิดการช็อตระหว่างสัมผัสกับสิ่งของหรือวัสดุอื่นได้ แต่ไม่เป็นอันตรายเหมือนไฟดูดที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าแรงสูง

    วิธีป้องกันไฟฟ้าสถิตสามารถทำได้โดยใช้เครื่องทำความชื้น ทาครีมบำรุงผิว เลือกเสื้อผ้าฝ้าย ใส่รองเท้าหนัง สัมผัสโลหะบ่อยๆ หรือใช้แผ่นอบผ้า ก็สามารถช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิตที่เกิดขึ้นบ่อยจนน่ารำคาญได้