Key Takeaway
- ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 คือฉลากที่แสดงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเครื่องที่ได้รับฉลากนี้จะมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดค่าไฟและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบใหม่มีการปรับมาตรฐานการประเมินและใช้เทคโนโลยีใหม่ในการคำนวณ เพื่อให้การประหยัดพลังงานแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- สินค้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องกรองน้ำ ไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องดูดฝุ่น
- เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยพิจารณาจากฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ตามความต้องการการใช้งาน ขนาด และคุณสมบัติที่เหมาะสมกับบ้านหรือการใช้งาน รวมถึงการตรวจสอบราคาและคุณภาพของสินค้า
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 คือเครื่องหมายที่บ่งบอกถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูง ช่วยประหยัดค่าไฟและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักกับฉลากเบอร์ 5 ให้มากขึ้น ว่าคืออะไร ทำไมควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีฉลากนี้ รวมถึงเปรียบเทียบความต่างระหว่างฉลากเบอร์ 5 แบบใหม่กับแบบเดิม และแนะนำสินค้าที่ได้รับการรับรองว่ามีฉลากเบอร์ 5 ให้คุณเลือกใช้อย่างมั่นใจ!
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 คืออะไร? ช่วยประหยัดไฟจริงไหม
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 คือฉลากที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระดับการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ค่าไฟต่อปี หน่วยพลังงานที่ใช้ และรายละเอียดเบื้องต้นอย่างชื่อสินค้า ปีผลิต และกำลังไฟ จุดประสงค์หลักคือช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น เช่น อยากเปิดแอร์ประหยัดไฟ เพียงเลือกสินค้าที่มีฉลากเบอร์ 5 ก็ช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้มาก
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2538 โดยเริ่มต้นกับเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทตู้เย็นเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ได้รับการติดฉลากดังกล่าว เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งระบบการให้คะแนนของฉลากนี้จะแบ่งออกเป็นระดับตั้งแต่ 1 ถึง 5 โดยเลข 5 จะหมายถึงระดับที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานสูงที่สุด หรือก็คือช่วยลดค่าไฟฟ้าได้มากที่สุดนั่นเอง โดยหลักการของฉลากนี้คือยิ่งคะแนนสูง ก็ยิ่งประหยัดไฟมาก ช่วยทั้งลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว และยังเป็นการสนับสนุนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
เลือกอุปกรณ์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ดีอย่างไร
การเลือกซื้ออุปกรณ์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 มีประโยชน์ต่างๆ ที่สามารถส่งผลดีทั้งต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ดังนี้
- การเลือกใช้อุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานช่วยลดการใช้ไฟฟ้า ซึ่งส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงในระยะยาว และยังเป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ
- อุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานมักมีอายุการใช้งานยาวนานและคุ้มค่ามากกว่าการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง
- การใช้พลังงานน้อยลงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบต่อธรรมชาติอย่างยั่งยืน
- อุปกรณ์ประหยัดพลังงานมักถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง เพิ่มความสะดวกในการใช้งานและช่วยให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น
- การเลือกอุปกรณ์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หมายความว่าได้เลือกสินค้าที่ผ่านการตรวจสอบและได้รับการรับรองตามมาตรฐานการประหยัดพลังงาน
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบใหม่ แตกต่างจากแบบเก่าอย่างไร?
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบใหม่มีการปรับเกณฑ์ให้เข้มงวดขึ้น โดยเน้นการประเมินตามการใช้งานจริงของผู้บริโภค ไม่ใช่แค่ดูว่ากินไฟน้อยอย่างเดียว แต่ต้องทำงานได้ดีด้วย มีการแยกระดับดาวภายในเบอร์ 5 เช่น 5 ดาว 4 ดาว เพื่อให้เห็นความต่างของความประหยัดพลังงานอย่างละเอียด
การใช้เทคโนโลยีอย่างระบบอินเวอร์เตอร์ก็ถูกนำมาช่วยให้การทำงานของอุปกรณ์นิ่งขึ้น ใช้ไฟน้อยลงแต่ให้ผลลัพธ์เท่าเดิมหรือดีกว่า ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเครื่องปรับอากาศที่เปลี่ยนมาใช้ระบบอินเวอร์เตอร์ และตู้เย็นที่ออกแบบให้มีฉนวนกันความร้อนดีขึ้น ซึ่งทำให้ผ่านเกณฑ์ฉลากใหม่ได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้บริโภคเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดไฟได้แม่นยำและคุ้มค่ากว่าเดิม
มาตรฐานการให้คะแนนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบใหม่
มาตรฐานการให้คะแนนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบใหม่ได้รับการยกระดับเพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจนและสะท้อนถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในชีวิตจริงได้ดียิ่งขึ้น จากเดิมที่เราเข้าใจว่า “เบอร์ 5” หมายถึงการผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ตอนนี้ฉลากใหม่มีการเพิ่มดาวตั้งแต่ 1 ถึง 5 ดาว โดยยิ่งดาวมากก็ยิ่งหมายถึงการประหยัดพลังงานที่มากขึ้น ทำให้เราเข้าใจง่ายขึ้นถึงระดับความเก่งในการประหยัดไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้า
นอกจากนี้ วิธีการวัดประสิทธิภาพก็เปลี่ยนไป เช่น เครื่องปรับอากาศที่ไม่ดูแค่ค่า EER แบบเดิม แต่จะเน้นค่า SEER ซึ่งวัดประสิทธิภาพตลอดฤดูกาล ทำให้การประหยัดพลังงานใกล้เคียงกับการใช้งานจริงมากขึ้น บนฉลากใหม่ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ เช่น ค่าไฟฟ้าโดยประมาณต่อปี และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่สำคัญยังมีสัญลักษณ์แสดงว่าผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อม QR Code ที่ให้เราเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมได้
สินค้าไหนบ้างที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใดที่ไม่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ไม่ควรซื้อ เนื่องจากอาจไม่สามารถประหยัดพลังงานได้ดีเท่าที่ควร มาทำความรู้จักกับสินค้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งมีหลากหลายประเภทที่ช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟในระยะยาว พร้อมรับรองประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีเยี่ยมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น
- เครื่องปรับอากาศ
- ตู้เย็น
- เครื่องซักผ้า
- พัดลม
- หลอดไฟ LED
- เครื่องทำน้ำอุ่น
- เตาอบไมโครเวฟ
- เครื่องดูดฝุ่น
- เครื่องปิ้งขนมปัง
- เครื่องกรองอากาศ
วิธีเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
วิธีเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเครื่องหมายประหยัดไฟเบอร์ 5 คือการตรวจสอบฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 บนผลิตภัณฑ์ทุกครั้งที่ซื้อ เพื่อยืนยันว่าได้รับการรับรองการประหยัดพลังงาน จากนั้นเปรียบเทียบข้อมูลการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายไฟฟ้าต่อปีจากฉลาก เพื่อเลือกสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และพิจารณาประเภทสินค้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อประหยัดพลังงานและค่าไฟในระยะยาว
สรุป
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 คือฉลากที่บ่งบอกประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า ช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าได้จริง การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีฉลากนี้ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ฉลากแบบใหม่ปรับปรุงมาตรฐานให้แม่นยำยิ่งขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีในการคำนวณ คะแนนจะพิจารณาการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สินค้าที่ได้รับฉลากนี้ เช่น ตู้เย็น แอร์ เครื่องซักผ้า และหลอดไฟ การเลือกซื้อควรพิจารณาคุณสมบัติที่ตรงกับความต้องการและประหยัดพลังงานสูงสุด
บ้านที่สนใจติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อประหยัดไฟและรักษาสิ่งแวดล้อม สามารถเลือกใช้บริการจาก Ewave ที่มีทั้งการจำหน่ายและการติดตั้งโดยช่างมืออาชีพ พร้อมบริการหลังการขายเพื่อให้มั่นใจในความคุ้มค่าระยะยาว